เปิดประวัตินักบิดสัญชาติญี่ปุ่น ทาคาอากิ นาคากามิ

เมื่อนึกถึงสีสันของการแข่งขันจักรยานยนต์สุดมันส์ ในช่วงเวลานี้ คงไม่พ้นศึกโมโตจีพี ที่การแข่งขันนั้นกำลังร้อนระอุดุเดือดไปกับนักแข่งรุ่นใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นการแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีของรถแข่งในสังกัด รวมถึงความชำนาญของนักแข่ง และหากพูดถึงนักแข่งที่มีฝีไม้ลายมือน่าจับตามองด้วยฝีมือการขับขี่ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องในสนามแข่งขันโมโตจีพี 2020 แน่นอนว่าคงจะอดพูดถึงนักแข่งชาวเอเชียคนนี้ไปไม่ได้ นั่นก็คือ นักบิดสัญชาติ ญี่ปุ่นหมายเลข 30 ที่มีชื่อว่า ทากาอากิ นาคางามิ แห่งสังกัด LCR Honda Idemitsu

จุดเริ่มต้นจนมาถึงวันนี้ เค้าต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง ไปทำความรู้จักกับเขากันเลยดีกว่า

ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดชาวญี่ปุ่นวัย 28 ปี เกิดในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ปี 1992 ณ เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมฉายแววการเป็นนักบิดตั้งแต่เด็ก

ในปี 2005 ทาคาอากิ สามารถเทิร์นโปรสู่การแข่งขันอาชีพในทีม Harc-Pro Honda ลงทำการแข่งขันในรุ่น GP125 รายการ Japanese Road Race Championship ก่อนสร้างชื่อเสียงด้วยการจบฤดูกาลเป็นอันดับ 13 พร้อมคว้าตำแหน่ง Rookie in the series ก่อนในปีถัดมา ทาคาอากิ สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์ประจำปีในรายการ Japanese Road Race Championship ในรุ่น GP125 ซึ่งถือว่าเป็นแชมป์ที่มีอายุน้อยที่สุด คือ 14 ปี เท่านั้น

หลังจากที่ได้แชมป์ประจำปีในรายการ Japanese Road Race Championship เส้นทางสายมอเตอร์สปอร์ตของ ทาคาอากิ นาคากามิ ยังคงก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่องโดยเริ่มเข้าการแข่งขันรายการ CEV 125GP series ซึ่งเป็นรายการปั้นนักแข่งดาวรุ่ง MotoGP Academy

ปี 2006 ทาคาอากิ ปิดตารางการแข่งขันในอันดับที่ 12 และสามารถทำอันดับดีที่สุดได้ถึงอันดับที่ 5 ในการแข่งขับที่ Jerez

ปี 2007 ทาคาอากิตัดสินใจที่จะโฟกัสกับการแข่งขัน CEV 125GP series เพียงรายการเดียว เพื่อทำผลงานให้ดีที่สุด และสร้างผลงานอันสุดยอด ด้วยการจบฤดูกาลที่อันดับ 6 Overall และสร้างผลงานที่ดีที่สุดด้วยการคว้าโพเดียมอันดับ 3 ที่ Valencia จนได้รับสิทธิ์ไวด์การ์ดเข้าร่วมการแข่งขัน 125 cc. World Championship

หลังจากที่ ทาคาอากิ นาคากามิ เริ่มอิ่มตัวกับการแข่งขัน 125 ซีซี. กับสังกัดดังทั่วยุโรป เขาตัดสินใจกลับไปตั้งหลักที่ดินแดนบ้านเกิดกับทีม Harc-Pro Honda อีกครั้ง โดยลงแข่งในรายการ Japanese ST600 Championship ซึ่งชัยชนะตั้งแต่สนามแรกที่ Tsukuba ของเขา เป็นตัวปลุกไฟให้ลุกโชนได้เป็นอย่างดี หลังจากที่จบอันดับรวมที่ 8 ในฤดูกาลนั้น ทำให้ขยับรุ่นไปขี่ J-GP2 ในฤดูกาล 2012 และสามารถคว้าชัยได้ถึง 5 ครั้ง จาก 6 สนาม ก่อนที่จะได้แชมป์ประจำปี แม้จะไม่ได้แข่งในสนามที่ 6 ณ Okayama เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวน

ทาคาอากิ นาคากามิ เข้าสู่เส้นทางการแข่งขันระดับโลกกับทีม Italtrans Racing Team ในรุ่น Moto 2 ซึ่งเลือกใช้เฟรมแบรนด์ Kalex ร่วมกับขุมพลังจาก Honda CBR600 อันเป็นมาตรฐานสำหรับการแข่งขัน Moto 2 ในยุคนั้น เขาเองสามารถจบการแข่งขันฤดูกาลแรกใน Moto 2 ที่อันดับ 15 และทำผลงานได้ดีที่สุดในอันดับ 5 ที่ Jerez Circuit อันเป็นสนามที่เขาถนัด

ปี 2013 โพเดียมที่ ทาคาอากิ รอคอยก็มาถึง กับการแข่งขันที่ Losail ประเทศการ์ต้า เขาเปิดฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 และสามารถคว้าตำแหน่ง โพสิชั่นแรกในการแข่งขัน Moto 2 มาได้สำเร็จ ในการแข่งขันที่สนาม Le Mans ประเทศฝรั่งเศส โดยการแข่งขันในฤดูกาล 2013 ด้วยฝีมือที่ดีทำให้เขาสามารถคว้าอันดับ 2 บนโพเดียมได้ถึง 4 ครั้ง ในปีนั้น และจบฤดูกาลในอันดับที่ 8 Overall

ปี 2016 และ 2017 เป็นการแข่งขันที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ ทาคาอากิ นาคากามิ ก็ว่าได้ เพราะนอกจากเขาจะจบการแข่งขันตลอดฤดูกาลเป็นอันดับที่ 6 และ 7 ตามลำดับแล้ว เขายังสามารถคว้าโพเดียมสูงสุดให้กับตัวเองได้สำเร็จอีกด้วย โดยในปี 2016 ทาคาอากิ คว้าชัยชนะในการแข่งขันได้ที่สนาม Assen ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนจะมาตอกย้ำชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2017 ที่สนาม Silverstone ประเทศอังกฤษ ภายใต้สังกัด Idemitsu Honda Team Asia